กฎหมายเป็นสิ่งที่มนุษย์ในสังคมหนึ่ง ๆตกลงกันและกำหนดขึ้นเป็นระเบียบปฏิบัติของคนในสังคม เช่น กฎหมายประเทศไทยก็เป็นเรื่องที่คนไทยตราขึ้นมา โดยมีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาไปร่วมกันร่างกฎหมายหรือพระราชบัญญัติแต่กฎหมายบางอย่าง เช่น พระราชกฤษฎีกา หรือพระราชกำหนดร่างโดยคณะรัฐมนตรีนอกจากนี้ก็มีระเบียบบางอย่างที่ออกโดยกระทรวงหรือหน่วยงาน ซึ่งกฎหมาย พระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา พระราชกำหนดหรือระเบียบปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานก็มีศักดิ์และสิทธิ์ต่างกันไป นอกจากนี้กฎหมายของแต่ละประเทศก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันแต่ละสังคมต่างก็มีกฎของตัวเอง นี้คือเรื่องของกฎหมายโดยย่อ ส่วนกฎแห่งกรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์แต่ละคนหรือชนแต่ละกลุ่มกำหนดขึ้น แต่เป็นกฎที่คอยควบคุมความเป็นไปของพฤติกรรมมนุษย์ว่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วจะเกิดผลอย่างไร ซึ่งความจริงกฎแห่งกรรมไม่ได้มีผลเฉพาะมนุษย์เท่านั้น แต่ยังควบคุมพฤติกรรมสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย ไม่ว่าเทวดา พรหม หรือสัตว์ต่าง ๆ ถ้าใครทำสิ่งที่ดีก็เป็นกรรมดี และจะได้รับผลดีตอบสนอง ถ้าทำสิ่งไม่ดีก็เป็นกรรมชั่ว จะมีวิบากที่ร้ายแรงตอบสนอง มนุษย์ก็เช่นกัน ไม่ว่าเป็นคนชาติไหน นับถือศาสนาอะไร มีความเชื่ออย่างไร ล้วนอยู่ใต้กฎแห่งกรรมเหมือนกันทั้งสิ้น
กฎแห่งกรรมไม่ใช่เรื่องของความเชื่อ แต่เป็นความจริงที่มีผลกับคนทุกศาสนา แม้คนนั้นไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ก็ต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมเหมือนกัน เพราะกฎแห่งกรรมนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า พระองค์ไม่ใช่ผู้บัญญัติขึ้น แต่เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วก็ทรงไปรู้ไปเห็นความจริงว่ากฎแห่งกรรมมีอยู่และเมื่อทรงได้เห็นความจริงแล้วว่าทำอย่างไรเป็นบุญ ทำอย่างไรเป็นบาป ก็ทรงนำมาสั่งสอนมนุษย์ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงไม่ทำความชั่ว และจะได้ตั้งใจทำความดี ทำใจให้ผ่องใส สุดท้ายจะได้พ้นจากกิเลสอาสวะ แล้วเข้าพระนิพพานเพราะฉะนั้นกฎแห่งกรรมก็คือกฎแห่งความจริงที่ไม่ขึ้นกับความเชื่อ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องเจอ และที่สำคัญก็คือ เราจะเชื่อตอนเป็นหรือจะไปเห็นตอนตาย ถ้าเชื่อตอนยังมีชีวิตอยู่เราจะได้ไม่ทำบาปแล้วตั้งใจทำบุญ แม้อาจยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยังไม่เห็นว่านรกเป็นอย่างไร ก็เชื่อเผื่อเหนียวไว้ก่อนแล้วกันเพราะถ้าเราเชื่อตอนเป็น เรายังมีทางแก้ไขได้อะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปทำ ที่เคยทำมาแล้วก็ลืม ๆไปเสีย แล้วตั้งใจทำความดีไปชดเชย แต่ถ้าตอนมีชีวิตอยู่ไม่เชื่อ พอตายแล้วตกนรกไปเจอพญายมราช ถึงตอนนั้นจะกลับตัวก็ไม่ทันแล้วดังนั้นเราต้องเลือกแล้วว่า จะเชื่อตอนเป็นหรือว่าจะไปเห็นตอนตาย ถ้าให้แนะนำขอบอกว่าเชื่อดีกว่า แล้วบาปกรรมก็อย่าไปทำเลยทำความดีเยอะ ๆ จะได้ไม่ตกนรก ไม่ต้องไปอบาย จะได้ไปสวรรค์กัน ถ้าบุญเราเต็มที่เมื่อไรหมดกิเลสเมื่อไร จะได้ไปนิพพานกัน
กฎหมายกับกฎแห่งกรรมก็คล้าย ๆ กันแต่ว่าเราชาวพุทธทุกคนรู้หลักนี้แล้ว ก็ต้องไม่ทำผิดทั้งกฎหมายและกฎแห่งกรรม และให้ตระหนักไว้ลึก ๆ ว่า กฎแห่งกรรมน่ากลัวกว่ากฎหมายเยอะ เพราะกฎหมายลงโทษได้หนักที่สุด คือ ประหารชีวิต รองลงมาก็จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตามระยะเวลาที่ได้รับโทษ หรือจ่ายค่าปรับ ซึ่งโทษหนักที่สุด คือ ประหารชีวิตนั้น โดนประหารแค่ครั้งเดียวเมื่อตายก็จบกันแต่ถ้าโดนลงโทษตามกฎแห่งกรรม พอตายแล้วก็จะมีชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยอำนาจของกรรม แล้วโดนลงทัณฑ์ทรมานต่อ ตายเกิดตายเกิดอย่างนี้วันละหลายล้านหน เทียบกับกฎแห่งกรรมกฎหมายเหมือนกับของเด็กเล่นไปเลย ถึงได้ถามว่าจะเชื่อตอนเป็นหรือว่าจะไปเห็นตอนตาย จะปรับปรุงแก้ไขในขณะมีชีวิตอยู่หรือว่าจะดื้อถือดีไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ แล้วก็ทำสิ่งที่ผิด ๆ สุดท้ายพอตายแล้วตกนรก ตอนนั้นจะบอกว่าเชื่อ จะไม่ทำอีกแล้ว ก็สายเกินไป